"บีทีเอสซ้อมแผนฉุกเฉิน ก่อนเปิดสถานีคูคต ธค.นี้"

บีทีเอสซ้อมแผนฉุกเฉิน เตรียมความพร้อมก่อนเปิดให้บริการสถานีคูคตธันวาคมนี้ บิผ๊กบีทีเอสเผยหากเชื่อมครบ 3 จังหวัด (ปทุมธานี สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร) จะสามารถรองรับผู้โดยสารที่มาใช้บริการเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,500,000 เที่ยวคนต่อวัน

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า บริษัทฯ จะจัดเตรียมซ้อมแผนฉุกเฉิน และตรวจความพร้อมต่าง ๆ ก่อนเปิดให้บริการถึงสถานีคูคตในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นการจำลองเหตุการณ์กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ได้แก่ กรณีการอพยพผู้โดยสารลงรางจากรถไฟฟ้าไปสถานี กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้บนสถานี และกรณีเกิดเหตุขู่วางระเบิดบนสถานี ณ สถานีคูคต (N24) ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 และเตรียมฝึกซ้อมเหตุเพลิงไหม้ อาคารศูนย์ซ่อมบำรุงหลัก ณ ศูนย์ซ่อมบำรุงและควบคุมส่วนกลาง สะพานใหม่ – ลำลูกกา ในวันที่ 1 ธันวาคม 2563 นี้ตามลำดับ ซึ่งการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินต่าง ๆ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานฉุกเฉินภายนอก ทั้งจากภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่

อย่างไรก็ตาม บริษัท ฯ ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าเตรียมความพร้อมในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้สามารถเปิดเดินรถในส่วนต่อขยายถึงสถานีคูคตตามแผนที่กำหนดภายในเดือนธันวาคมนี้ อีกทั้งเตรียมความพร้อมให้กับพนักงาน และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เมื่อเกิดเหตุการณ์จริง

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ปี 2562 รถไฟฟ้าบีทีเอสได้เริ่มทยอยเปิด โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต – สะพานใหม่- คูคต ได้แก่ สถานีห้าแยกลาดพร้าว , สถานีพหลโยธิน 24 , สถานีรัชโยธิน , สถานีเสนานิคม , สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และในเดือนมิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดสถานีเพิ่มอีก 4 สถานี ได้แก่ สถานีกรมป่าไม้ , สถานีบางบัว , สถานีกรมทหารราบที่ 11 และสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ รวมระยะทาง 58.42 กิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ซึ่งได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ ในเดือนธันวาคมนี้รถไฟฟ้าบีทีเอสเตรียมเปิดให้บริการเพิ่มอีกจำนวน 7 สถานี ต่อจาก สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ได้แก่ สถานีพหลโยธิน 59 , สถานีสายหยุด , สถานีสะพานใหม่ , สถานีโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช , สถานีพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ , สถานีแยก คปอ. และสถานีคูคต รวมระยะทาง 9.8 กิโลเมตร เพื่อเป็นการขยายเส้นทางส่งต่อความสุข มอบเป็นของขวัญให้แก่ประชาชน ช่วยลดปัญหาการจราจรโดยเฉพาะโซนด้านเหนือซึ่งเป็นประตูสู่กรุงเทพฯ เนื่องจากตลอดเส้นทางส่วนต่อขยาย ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต มีทั้งสถาบันการศึกษา ห้างสรรพสินค้า สำนักงานราชการ หมู่บ้าน ชุมชน

“คาดว่าเมื่อเปิดเดินรถไฟฟ้าได้ครบเรียบร้อยแล้ว จะช่วยบรรเทาการจราจรให้ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เชื่อมโยงการเดินทางครอบคลุมถึง 3 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร โดยจะสามารถรองรับผู้โดยสารที่มาใช้บริการเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,500,000 เที่ยวคนต่อวันอีกด้วย”

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ในโอกาสที่รถไฟฟ้าบีทีเอสได้ให้บริการผู้โดยสารครบ 3,500,000,000 เที่ยวคน บริษัทฯ ต้องขอขอบคุณผู้โดยสารทุกท่าน ที่คอยให้การสนับสนุน มาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะปรับปรุงพัฒนาการบริการให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย และมีความปลอดภัยในการใช้บริการให้ดียิ่งขึ้น ตามสโลแกนที่ว่า “LIFT UP YOUR LIFE ความสุขยกระดับของชีวิตวันนี้”