กรมรางยันเร่งเคลียร์ “รถไฟเข้าหัวลำโพง”

กรมรางยันเอาแน่!!! เร่งเคลียร์ขบวนรถไฟดีเซลเชิงพาณิชย์เข้า “สถานีหัวลำโพง” ตั๋วโดยสารรีเทิร์นค่าใช้จ่ายได้ เผยต้องลดบทบาทเพื่อให้ไปใช้สถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์กลางการเดินทางของอาเซียน ด้าน “เอสอาร์ที แอสเสท” ยันไม่มีกลุ่มทุน ไม่ทุบ ไม่รื้อ หัวลำโพง ย้ำชัด!!! ยังคงรักษามรดกของชาติให้ทรงคุณค่าดังเดิม แต่ยังแทงกั๊กแปลงอื่นในพื้นที่ต้องนำมาพัฒนาหารายได้

ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง(ขร.) เปิดเผยว่า ในอนาคตอันใกล้นี้หัวลำโพงหรือสถานีรถไฟกรุงเทพนั้นจะต้องถูกลดบทบาทให้เหลือเพียงสถานีเชื่อมโยงการเดินทางในเมืองเท่านั้น แล้วเปลี่ยนมาใช้บริการที่สถานีกลางบางซื่อแทนให้เต็มประสิทธิภาพและคุ้มค่าการลงทุน เพื่อยกระดับศักยภาพบริการสู่ศูนย์การการเดินทางด้วยรถไฟระดับอาเซียนตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ แต่จะไม่ทุบรื้อทิ้งตัวอาคารของสถานีหัวลำโพง ยกเว้นเฉพาะที่จะต้องมีการซ่อมแซมในบางจุดเท่านั้น ส่วนพื้นที่อื่นๆที่ไม่ได้มีการใช้งานจะต้องนำมาพัฒนาหารายได้ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยต่อไป

“เฉพาะเชิงพาณิชย์ก่อน ยังไงก็ต้องย้ายเพราะรถไฟทั้งหมดจะไปจอดไว้ที่ไหน และจะต้องย้ายไปบางซื่อให้มากที่สุด และหากสายสีแดงมิสซิ่งลิ้งค์ก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์สถานีหัวลำโพงจะเปลี่ยนบทบาทไปในที่สุด จะเพิ่มบทบาทให้รถไฟสายสีแดงเข้าไปแทน ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นการซ้อมไปเรื่อยๆจนกว่าจะเห็นว่าเหมาะสมแล้วซึ่งคงเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2565 เป็นต้นไปราวไปกุมภาพันธ์หรือมีนาคม 2565 อาจจะเริ่มจาก 1 ใน 4 แล้วค่อยๆปรับไป เดือนกันยายนค่อยย้ายขบวนเชิงพาณิชย์สายใต้ ช่วงสงกรานต์นี้จะทำให้สถานีกลางบางซื่อมีคนมาใช้บริการรถไฟออกไปสู่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างสะดวกที่สุด ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินที่มาจากโซนรัชดาภิเษก หรือฝั่งธนบุรี ตลอดจนสายสีม่วงที่จะมาต่อ MRT ที่เตาปูน สายสีแดงมาจากโซนตลิ่งชัน รถซัตเติลบัสเชื่อมจากบีทีเอสก็มีบริการ แอร์ก็เย็นสบายกว่า ประการสำคัญสามารถเข้าถึงสนามบินดอนเมืองได้ไม่กี่นาทีเท่านั้นด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดง”

ประการสำคัญตามที่หลายคนเป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายนั้น เรื่องนี้ทางขร. คิดไว้แล้วโดยเดิมนั้นผู้โดยสารใช้รถไฟทางไกลจะลงที่หลักสี่ บางเขน ดอนเมือง แต่รถวิ่งเข้าบางซื่อหมดแล้ว ไม่จอดสถานีดังกล่าวแล้ว ผู้โดยสารสามารถได้รับการเยียวยาด้วยการแสดงตั๋วต่อพนักงานพร้อมแจ้งความประสงค์ว่าจะเดินทางไปยังสถานีแห่งใด โดยสามารถไปใช้บริการสายสีแดงได้อย่างไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด การเดินทางสู่บางซื่อและออกจากบางซื่อก็จะรวดเร็วขึ้น ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องรถเข็นไม่เพียงพอบริการจนต้องแบกของระยะไกล รฟท.เตรียมไว้บริการรองรับไว้แล้ว ถ้าประสงค์จะใช้บริการ เช่นเดียวกับการจัดคิวแท็กซี่ รถเมล์โดยสาร จักรยานยนต์รับจ้างเตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมดแล้วเช่นกัน

ด้าน “เอสอาร์ที แอสเสท” บริษัทลูกของการรถไฟแห่งประเทศไทย ดำเนินธุรกิจด้านการบริหารและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของการรถไฟ ยืนยันชัดไม่เคยมีแนวคิดที่จะทุบ รื้อ ทำลาย สถานีหัวลำโพงแต่อย่างใด พร้อมพัฒนาสถานีหัวลำโพงเป็นศูนย์กลางการคมนาคมในเมือง และยังคงอนุรักษ์สถานีหัวลำโพง และจุดสำคัญทางประวัติศาสตร์ไว้อย่างครบถ้วน

ต่อเรื่องนี้นางสาวไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด กล่าวว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดตั้งบริษัทเอสอาร์ที แอสเสทจำกัด เพื่อบริหารจัดการและพัฒนาพื้นที่ของการรถไฟ โดยเฉพาะพื้นที่รอบสถานีต่างๆ ในรูปแบบ TOD (Transit Oriented Development) ซึ่งจะช่วยพัฒนาชุมชนโดยรอบ ทั้งในแง่เศรษฐกิจและสังคมอย่างเป็นระบบ ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ กำลังศึกษาแนวทางการพัฒนาพื้นที่ของ รฟท. หลายแปลง

สำหรับกระแสข่าวที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า รฟท.จะทุบรื้อสถานีหัวลำโพงนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด แต่เนื่องจากหัวลำโพงไม่มีพื้นที่เพียงพอที่จะขยายเส้นทางเดินรถไฟได้ จึงได้สร้างสถานีกลางบางซื่อเพื่อเป็นศูนย์กลางคมนาคมทางไกล และพัฒนาสถานีหัวลำโพงเป็นศูนย์กลางคมนาคมในเมือง

ทั้งนี้ รฟท. ได้เคยจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาสถานีหัวลำโพงแล้วตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งบริษัทฯ จะนำผลการศึกษานั้นมาทบทวนและศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้ตอบสนองวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ปัจจุบัน เน้นพื้นที่สีเขียวและให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม การพัฒนาชุมชนและการยกระดับวิถีชีวิตของประชาชน ที่สำคัญจะยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมและจุดสำคัญทางประวัติศาสตร์ให้ทรงคุณค่าไว้อย่างครบถ้วน

“การพัฒนาหัวลำโพงยังเป็นเพียงการศึกษาในเบื้องต้น ยังต้องใช้เวลาในการศึกษารายละเอียดอีกมาก และแนวทางการพัฒนานี้ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนใด ๆ ทั้งสิ้น” นางไตรทิพย์กล่าวในตอนท้าย