รฟฟท.เตรียมเปิดตัวบัตรโดยสารลายใหม่ ดีเดย์ 15 สค.ปรับเวลาสายสีแดงเป็น 05.00 น.

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ก้าวสู่ปีที่ 13 กับการพัฒนาระบบขนส่งทางราง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง ดีเดย์ 15 สค. ปรับเวลาเดินรถสายสีแดงเป็น 05.00 น. พร้อมปรับเพิ่มความถี่ต่อขบวนทั้งในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนและนอกชั่วโมงเร่งด่วนให้สอดคล้องกับสายการบินและปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนในปี 2567 คาดการณ์ว่าผู้ใช้บริการจะเพิ่มสูงขึ้น 10% จากปัจจุบันราว 2.5 หมื่นคน

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา รฟฟท. ได้มุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการเพื่อเป็นผู้นำในการเดินรถไฟฟ้าด้วยมาตรฐานในระดับสากล ตามวิสัยทัศน์ของ รฟฟท. นับตั้งแต่การให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ มาจนถึงการให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ซึ่งมีการพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ จนสามารถผ่านการรับรองคุณภาพ ISO 9001 : 2015 ขอบเขต : วิศวกรรมและซ่อมบำรุงและขอบเขต : งานปฏิบัติการเดินรถไฟฟ้าที่ผ่านการรับรองจาก BV (Bureau Veritas) ซึ่งเป็นองค์กรให้บริการด้านการตรวจประเมินและออกใบรับรองในด้านคุณภาพ อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในระดับโลก

โดย รฟฟท. ได้นำมาตรฐานดังกล่าวเข้ามาใช้พัฒนาในด้านการเดินรถไฟฟ้า และซ่อมบำรุงได้อย่างมีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งยังได้ผ่านการรับรอง ISO/IEC 27001 : 2013 ระบบการจัดการความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ (Information Security Management Systems : ISMS) ขอบเขตระบบบริหาร จัดการ : ระบบการจัดการความปลอดภัยของข้อมูลที่ใช้ในการสนับสนุนการดําเนินงานของ Back office ซึ่งรวมถึง (MIS Server เครือข่ายและระบบสํารองข้อมูล) ซึ่งได้รับการรับรองจากสถาบันมาตรฐานอังกฤษ (BSI.)

รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 50 เวบไซต์ที่ทุกคนเข้าถึงได้

รวมถึง รฟฟท. ยังได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 50 หน่วยงานที่ได้รับรางวัลหน่วยงานรัฐที่สามารถปรับปรุงเว็บไซต์ผ่านเกณฑ์การประกวดเว็บไซต์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ (Web Content Accessibility Guidelines) ภายใต้โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเว็บไซต์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ ประจำปี 2566 ซึ่ง รฟฟท. เล็งเห็นถึงความสำคัญของการให้บริการในด้านต่างๆ รวมถึงการให้ข้อมูลที่เกี่ยวกับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงผ่านช่องทางเว็บไซต์ให้สามารถใช้งานได้ง่าย สะดวก เข้าถึงได้จากคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ หรือผู้พิการ มาตรฐานดังกล่าวจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยส่งเสริมให้เว็บไซต์สามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม

อีกทั้ง รฟฟท. ยังได้รับมอบรางวัลองค์กรคุณธรรมต้นแบบ ประจำปีงบประมาณ 2565 จากคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งที่ผ่านมา รฟฟท. ให้ความสำคัญและยึดหลักการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่ดีตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมาโดยตลอด โดยการดำเนินงานที่มีคุณธรรมและธรรมาภิบาล ส่งเสริมให้บุคลากรนำคุณธรรมและจริยธรรมมาใช้ในการดำเนินงานจนเกิดความร่วมมือกันภายในองค์กร อันส่งผลให้เกิดความสำเร็จ และมีประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

เน้นตรงต่อเวลา-ความพร้อมให้บริการ

นอกจากนั้น รฟฟท. ยังคงให้ความสำคัญในเรื่องของความตรงต่อเวลา ความน่าเชื่อถือ และความพร้อมของขบวนรถไฟฟ้าในการให้บริการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการ ปัจจุบันรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงมีสถิติความตรงต่อเวลา ความน่าเชื่อถือ และความพร้อมของขบวนรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงตั้งแต่เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์อยู่ที่ 99.45% , 99.52% และ 100% ตามลำดับ ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารเติบโตอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดให้บริการ จนปัจจุบันมีผู้โดยสารรวมมากกว่า 8 ล้านคน ซึ่งจะเห็นได้จากผลการสำรวจความพึงพอใจจากผู้ใช้บริการ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2566 ลงพื้นที่สำรวจโดยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) ซึ่งเป็นสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการสำรวจและวิจัย

ผลปรากฏว่าจากคะแนนเต็ม 5 ผู้โดยสารมีความพึงพอใจด้านการให้บริการ 4.50, ด้านความปลอดภัย 4.47, ด้านความน่าเชื่อถือต่อความตรงต่อเวลา ความถี่ และคุณภาพในการเดินรถไฟฟ้า 4.28, ด้านการประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูล 4.44, ด้านคุณภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกบนสถานี และในขบวนรถ 4.47, ด้านเหรียญโดยสาร/บัตรโดยสาร และกิจกรรมส่งเสริมการตลาด 4.28 จากผลสำรวจดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าผู้โดยสารมีความเชื่อมั่นต่อการให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงในด้านต่างๆ เป็นอย่างมาก

ดีเดย์ 15 สค.ปรับเวลาให้บริการเร็วขึ้น

และในวันที่ 15 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป รฟฟท. จะปรับเวลาเปิดให้บริการเร็วขึ้น จากเดิมเวลา 05.30 น. เปลี่ยนเป็นเปิดให้บริการในเวลา 05.00 น. เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น และสามารถรองรับผู้ที่เดินทางโดยสายการบินต่างๆที่จะเดินทางมาถึงสนามบินดอนเมืองในช่วงเช้ามืด รวมถึงจะปรับเพิ่มความถี่ในการให้บริการเดินรถให้เร็วขึ้น ทั้งสายเหนือ (ธานีรัถยา) ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – รังสิต ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน (Peak) เวลา 07.00 – 09.30 น และเวลา 17.00 – 19.30 น. โดยจะปรับเพิ่มความถี่จากเดิม 12 นาทีต่อขบวน เป็น 10 นาทีต่อขบวน

ส่วนในช่วงนอกชั่วโมงเร่งด่วน (Off Peak) จะปรับเพิ่มความถี่จากเดิม 20 นาทีต่อขบวน เป็น 15 นาทีต่อขบวน และสายตะวันตก (นครวิถี) ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – ตลิ่งชัน ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน (Peak) ให้บริการความถี่เท่าเดิมที่ 20 นาทีต่อขบวน แต่จะปรับเพิ่มความถี่ในช่วง นอกชั่วโมงเร่งด่วน (Off Peak) จากเดิม 30 นาทีต่อขบวน เป็น 20 นาทีต่อขบวน เพื่อลดเวลาในการรอคอยขบวนรถไฟฟ้า รวมถึงช่วยดึงดูดผู้โดยสารให้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารมาใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดงเฉลี่ยวันละ 2.3 – 2.4 หมื่นคน หากเป็นวันศุกร์ผู้โดยสารจะอยู่ที่ประมาณ 2.5 หมื่นคน ส่วนในปี 2567 คาดการณ์ว่าผู้ใช้บริการจะเพิ่มสูงขึ้น 10%

รฟฟท. ไม่เพียงแต่มุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการเดินรถไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR ควบคู่ไปด้วย โดยได้ดำเนินการโครงการต่างๆที่สร้างประโยชน์ให้กับชุมชนตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างพนักงานกับคนในชุมชน รวมถึงรณรงค์ให้พนักงานทุกคนให้มีความตระหนักและเห็นความสำคัญของการทำกิจกรรม CSR ด้วย ซึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รฟฟท. ได้จัดโครงการ “พี่หนูแดงมอบความสุขให้น้องผ่านห้องแห่งการเรียนรู้” ณ โรงเรียนวัดสนามนอก ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสถานีบางบำหรุ โดยจัดให้มีการปรับปรุงพื้นที่ในสถานศึกษา ได้แก่ ห้องพลศึกษา และห้องนาฏศิลป์ เพื่อให้โรงเรียนวัดสนามนอกมีห้องนันทนาการเพื่อจัดกิจกรรมต่างๆ และยังสามารถใช้เป็นห้องเพื่อการเรียนรู้ที่มีความเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด สามารถสร้างพัฒนาการที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและสติปัญญาให้กับเด็ก รวมถึงมีการปรับภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบให้มีความสวยงาม สะอาดปลอดภัยด้วย

เผยแผนการพัฒนาในอนาคต

นายสุเทพกล่าวอีกว่า สำหรับแผนการพัฒนารถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงในอนาคตนั้นจะมีการต่อยอดการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในระบบรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ การบูรณาการความร่วมมือกับท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง เพื่อพัฒนาจุดเชื่อมต่อให้มีความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น และเตรียมความพร้อมสำหรับทางเดินเชื่อมต่อกับสถานีหลักสี่ของรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี รวมถึงทางเดินลอยฟ้า(Sky Walk) ที่เชื่อมต่อกับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเก็บรายละเอียดและรอตรวจสอบ คาดว่าจะเปิดให้บริการช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้

ในด้านกิจกรรมส่งเสริมการตลาด รฟฟท. มีการจัดแคมเปญต่างๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับประชาชนและผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดแต่ละครั้งมีผู้ให้ความสนใจและร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก และเร็วๆ นี้เตรียมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ 2567 ด้วยการเปิดตัวบัตรโดยสารลายใหม่สุดพิเศษสำหรับนักเรียน/นักศึกษาจำนวน 2 ลาย เนื่องจากผลการสำรวจผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงในปัจจุบันชี้ว่ากลุ่มช่วงวัยนักเรียนและนักศึกษา คือกลุ่มที่ใช้บริการรถไฟฟ้ามากเป็นลำดับต้นๆ จากกลุ่มผู้ใช้บริการทั้งหมด

ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าด้วยมาตรฐานระดับสากลที่ รฟฟท. นำมาใช้ขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ จะส่งผลให้สามารถยกระดับการให้บริการแก่ผู้โดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงยังคงมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้มีคุณภาพ เพื่อตอบแทนความเชื่อมั่นที่ผู้โดยสารได้ให้ความไว้วางใจรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงด้วยดีเสมอมา และจะมุ่งมั่นพัฒนาระบบขนส่งทางรางเพื่ออยู่เคียงข้างคนไทยต่อไปในอนาคตอย่างมั่นคง
#รถไฟฟ้าสายสีแดงยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง #ปรับความถี่ให้บริการ #บัตรโดยสารลายใหม่ #มุ่งมั่นพัฒนาองค์กร