คมนาคมเปิดผลงาน ”99 วัน 9 เรื่องเด่น“ เร่งเชื่อมโยงบก – น้ำ – ราง – อากาศ

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 เวลา 09.00 น. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมควง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นางมนพร เจริญศรี และ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ) นำทีมตั้งโต๊ะแถลงผลงาน ”99 วัน 9 เรื่องเด่น“ ขับเคลื่อนโปรเจกต์คมนาคม บก – น้ำ-ราง – อากาศ สนองนโยบาย Quick Win ดันเศรษฐกิจไทยโต – ประชาชนอยู่ดีมีสุข

ไม่เหนือความคาดหมายที่ดูเหมือนว่าจะเป็นปลื้มนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย พร้อมเปิดใช้สนามบินเชียงใหม่ 24 ชั่วโมง – อาคาร SAT1 เช่นเดียวกับเร่งสร้างมอเตอร์เวย์ 2 สายเตรียมเปิดให้วิ่งฟรีตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ แถมยังใจดีเปิดใช้ไปเรื่อยๆจนกว่าโครงการแล้วเสร็จเสร็จสมบูรณ์ทั้งเส้นทาง ล่าสุดเปิดหวูดทางคู่สายใต้ช่วง “นครปฐม – หัวหิน” หนุนประชาชนเดินทางสะดวก ยังเดินหน้าไม่สนใจแรงต่อต้านยืนยันพร้อมเดินเครื่อง Landbridge – พัฒนาคมนาคม จ.ภูเก็ต-ปราบส่วยทางหลวงครบทั้ง 9 โครงการเด่น

เร่งหารายได้สนับสนุนกรณีปรับลดค่าโดยสาร 20 บาท

เหตุค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายถูกหยิบยกเป็นผลงานโบแดง “สุริยะ” เผยนี่แค่โครงการนำร่อง มั่นใจขยายครอบคลุมทุกเส้นทาง พร้อมเร่งเดินหน้าระบบตั๋วร่วมเพื่อนำรายได้จากกองทุนต่างๆมาพัฒนาคุณภาพให้บริการประชาชน

เผยภาพชัดแล้วที่จ้องใช้งบจากกองทุนอนุรักษ์พลังงาน แถมยังแบไต๋แล้วว่ารัฐพร้อมสนับสนุนงบประมาณเข้าไปดำเนินการ ขณะนี้อยู่ระหว่างประมวลตัวเลขที่ชัดเจนให้สามารถดำเนินการได้ภายในระยะเวลา 2 ปีที่แจ้งไว้

ปัจจุบันขั้นตอนอยู่ระหว่างการดำเนินการเรื่องระบบตั๋วร่วม ซึ่งจะมีการกำหนดว่ามีกองทุนขับเคลื่อนโครงการจึงต้องดูว่าเงินกองทุนนั้นจะมาจากแหล่งใดบ้าง และยังรอลุ้นอีกว่าเสนอกฤษฎีกาว่าจะดำเนินการ ‘ได้หรือไม่’ เช่นเดียวกันจากกรณีที่ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนกันมากขึ้นจะมีผลได้ผลเสียอย่างไรบ้าง ดังนั้นการใช้เงินงบประมาณราว 7,000-8,000 ล้านบาทไปสนับสนุนโครงการ 20 บาทตลอดสายจึงยังต้องขับเคลื่อนเรื่องนี้พร้อมกับต้องหาเงินก้อนโตมาสนับสนุนโครงการให้ต่อเนื่องและยั่งยืนด้วยเช่นกัน

ดังนั้นพ.ร.บ.ระบบตั๋วร่วมจึงเป็นอีกเครื่องมือที่จะเข้าไปช่วยซึ่งเรื่องอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายเพราะเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย ยังยืนยันว่าอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายกระทรวงคมนาคมไม่ได้ไปบังคับให้เอกชนต้องปฏิบัติโดยทันทีเพราะว่ามีสัญญาที่ได้ลงนามกันมาเรียบร้อยแล้วนั่นเอง การจะรื้อสัญญา ไปบังคับให้เอกชนลดรายได้จากการปรับลดค่าโดยสารจึงไม่สามารถทำได้

ลุ้นเสนอสภาไฟเขียวพ.ร.บ.ตั๋วร่วม

ทั้งนี้การประชุมสภาผู้แทนราษฏรครั้งต่อไปกระทรวงคมนาคมจะเสนอ พ.ร.บ.ระบบตั๋วร่วมเข้าสู่การพิจารณาหากแล้วเสร็จก็จะเร่งเดินหน้าหาทุนมาสนับสนุนในส่วนกองทุนนี้ได้ทันที ดังนั้นจึงมั่นใจว่าทันภายใน 2 ปีนี้อย่างแน่นอนและอาจจะทันก่อนครบ 2 ปีอีกด้วย แถมตนยังมีทีเด็ดที่จะดำเนินการแต่ขอให้ศึกษาครบถ้วนสมบูรณ์ก่อนจึงจะเปิดเผยเรื่องนี้อย่างชัดเจนต่อไป

ตอนหนึ่งนายสุริยะยืนยันเรามีความตั้งใจอย่างมากที่จะให้ผู้โดยสารที่มาใช้รถไฟฟ้าได้รับการบริการที่ดีขึ้น ในขณะเดียวกันหากเราไปเก็บในส่วนที่ประชาชนเดือดร้อนอาทิ ภาษี หรือค่าน้ำมันมองว่าจะเกิดความเสียหายมากกว่า ดังนั้นจึงต้องรอบคอบในการดำเนินโครงการและภาครัฐจะต้องสนับสนุนงบประมาณไปช่วยดำเนินการ หากประชาชนสามารถเปลี่ยนโหมดการเดินทางจากรถยนต์ส่วนตัวที่เป็นแหล่งก่อมลพิษ PM2.5 ไปใช้ระบบขนส่งมวลชนกันมากขึ้นย่อมเป็นสิ่งที่ดี ผลตอบแทนโครงการจึงต้องดูความคุ้มค่าในส่วนนี้ประกอบไว้ด้วย

ส่วนเรื่องโครงการอื่นๆที่ล่าช้านายสุริยะแถลงชัดเจนว่าเท่าที่ประเมินขณะนี้ยังไม่มี โดยไม่ได้เอ่ยถึงโครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ที่นายกรัฐมนตรีไล่บี้มาตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 พร้อมตำหนิผู้บริหารกทท. ในวงประชุมว่าอย่าแก้ตัวแทนภาคเอกชนซึ่งเรื่องนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมผู้ควบคุมดูแลกทท. ยังคงไล่บี้แผนดำเนินการต่อกทท.อย่างต่อเนื่อง

กำชับทล.-กทพ. เร่งดำเนินการช่วงถนนพระราม 2

อย่างไรก็แล้วแต่เรื่องเส้นทางการจราจรโดยเฉพาะสายพระราม 2 ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักเชื่อมต่อลงไปภาคใต้ โดยตลอด 30 ปีมาแล้วยังสร้างให้เสร็จสมบูรณ์ไม่ได้ นายสุริยะยืนยันว่ายุคนี้จะพยายามเร่งดำเนินการให้สำเร็จแต่เนื่องจากการก่อสร้างถนนสายนี้ล่าช้าเพราะวิกฤติโควิด-19 จึงได้เน้นย้ำกรมทางหลวงและการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเร่งดำเนินการ อีกทั้งยังได้ปรับระยะเวลาตามที่ได้หารือกับกรมบัญชีกลางคาดว่าแผนดำเนินงานจะมีความตรงเวลามากขึ้น

เร่งดัน 72 โครงการต่อเนื่องงบปี 68

นอกเหนือจากโครงการที่ได้ดำเนินการในปี 2566 และขับเคลื่อนงบประมาณในปี 2567 แล้วนายสุริยะยังยืนยันว่าได้ตั้งคณะทำงานเร่งติดตามผลักดันโครงการดังกล่าวเพิ่มเติมอีก 72 โครงการเพื่อให้เห็นภาพชัดในปี 2568เนื่องจากบางโครงการอยู่ระหว่างแผนการจัดซื้อจัดจ้างหรือระหว่างก่อสร้างเพื่อจะติดตามอย่างต่อเนื่องไม่ปล่อยให้ล่าช้าอีกต่อไป อีกทั้งยังป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ก่อน

ทั้งนี้ในวันที่ 11 -12 มกราคม 2567 นี้กระทรวงคมนาคมจะจัดให้มีการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดลำดับความสำคัญของโครงการต่างๆให้เป็นปัจจุบันหลังจากนั้นคงจะเห็นภาพความคืบหน้าชัดเจนมากขึ้น

สั่งทุกหน่วยเตรียมความพร้อมหาตัวผู้รับจ้าง

นายสุริยะกล่าวว่าขณะนี้งบประมาณปี 2567 ยังล่าช้าออกไป คาดว่าประมาณเดือนพฤษภาคมจะดำเนินการได้จึงส่งผลให้หลายโครงการล่าช้าดังนั้นจึงเหลือระยะเวลาอีกราว 5-6 เดือนที่จะให้ดำเนินการแต่ได้กำชับทุกหน่วยงานให้เร่งเตรียมการจัดซื้อจัดจ้างหากงบประมาณผ่านจะสามารถหาตัวผู้รับจ้างได้ทันที ส่วนโครงการขนาดใหญ่ที่น่าจะนำออกประมูลได้ก่อนนั้นเบื้องต้นโครงการทางพิเศษฉลองรัช ช่วงจตุโชติ-ลำลูกกา ระยะทาง 16.2 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 2.4 หมื่นล้านบาทน่าจะเร่งประมูลได้ก่อน

เช่นเดียวกับวิธีการบริหารจัดการของการเตรียมความพร้อมในการประกาศใช้พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2567 ที่คาดว่าภายหลังเดือนพฤษภาคมไปแล้วจะประกาศใช้พร้อมกับมองปัญหาการเร่งประมูลโครงการต่างๆของปี 2567 โดยในเบื้องต้นได้กำชับกรมทางหลวง การทางพิเศษแห่งประเทศไทยและกรมทางหลวงชนบทที่ใช้งบประมาณจำนวนมากเร่งเตรียมความพร้อมจัดซื้อจัดจ้างให้ได้มากที่สุด แต่มั่นใจว่าภาคเอกชนโดยเฉพาะบริษัทรับเหมาก็พร้อมจะเข้าร่วมประมูลกันอย่างเต็มที่เช่นกัน และเชื่อมั่นว่าโครงการก่อสร้างจะเข้าไปมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เกิดการจ้างงาน จึงเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไทย

ดันทางด่วนชั้นที่ 2 โมเดลแก้ปัญหารติด

สำหรับโครงการร่วมลงทุน(PPP) ที่ดูแล้วมีความสำคัญต้องเร่งขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหารถติดโดยล่าสุดขณะนี้บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ได้นำเสนอร่วมกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทยร่วมทุนพัฒนาโครงการทางด่วนชั้นที่ 2 ช่วงงามวงค์วาน-พระราม 9 น่าจะสามารถระบายการจราจรได้อีกทางหนึ่งด้วย

เล็งโรดโชว์แลนด์บริดจ์โซนประเทศจีน-ตะวันออกกลาง

ยังเชื่อมั่นว่าจากการลงพื้นที่โรดโชว์มาแล้วหลายประเทศได้รับการตอบรับที่ดี ล่าสุดเตรียมไปโรดโชว์ที่จีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ และหลายประเทศในตะวันออกกลาง ก่อนเปิดประมูลในปี 2568 เจาะกลุ่มผู้เดินเรือเข้ามาร่วมลงทุน ตลอดจนกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ล่าสุดรายละเอียดการศึกษาผลตอบแทนทางเศรษฐกิจผ่านไป 99% หลังจากนั้นจะเปิดให้นักลงทุนเข้ามาดูรายละเอียดได้ต่อไป

ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นความคืบหน้าของการสร้างผลงานของกระทรวงคมนาคมภายใต้ระยะเวลา 99 วันสามารถสร้างผลงานได้ 9 โครงการเด่น ส่วนโครงการใดจะทำได้สำเร็จตามแผนหรือไม่ยังมีให้ติดตามกันต่อไปหากพ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2567 ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ