ทล.เปิดว๊าบ!!! แบบฮับ

ทล. เปิด 4 รูปแบบฮับเดินทาง “ตระกูลบาง” (บางขุนเทียน-บางใหญ่-บางบัวทอง-บางปะอิน) พร้อม 2 จุดใหญ่เชื่อมทางด่วนศรีรัชและแยกต่างระดับฉิมพลีเข้ากับมอเตอร์เวย์ M9 ลุ้นเสนอครม.ไฟเขียวเปิดประมูลโครงการ M9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก (ช่วงบางบัวทอง – ลาดหลุมแก้ว) ในส่วนของงานโยธาคาดเริ่มก่อสร้างในปี 68 และเปิดใช้ปี 73 เพื่อเติมเต็มโครงข่ายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตกช่วงบางขุนเทียน-บางปะอิน ใช้งบกว่า 1.5 หมื่นล้าน

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า กรมทางหลวง(ทล.) อยู่ระหว่างนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติให้ดำเนินโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 (M9) สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก ช่วงบางบัวทอง – ลาดหลุมแก้วในส่วนของงานโยธาเพื่อเติมเต็มโครงข่ายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตกช่วงบางขุนเทียน-บางปะอิน วงเงินลงทุน (ทั้งโครงการ) 15,260 ล้านบาท

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวพบว่ามีจุดเชื่อมที่เป็นศูนย์กลางการเดินทางหรือฮับ(HUB) พื้นที่ขนาดใหญ่หลายจุด อาทิ ที่เรียกว่า ‘4 ฮับตระกูลบาง’ ได้แก่ ฮับบางขุนเทียน ฮับบางใหญ่ ฮับบางบัวทอง และฮับบางปะอิน นอกจากนั้นยังมีอีก 2 จุดเชื่อมขนาดใหญ่กับทางด่วนศรีรัช และจุดเชื่อมที่ทางแยกต่างระดับฉิมพลีที่จะทำให้การเดินทางสะดวกรวดเร็วขึ้น

โดยมอเตอร์เวย์เส้นทางนี้ยังจะเชื่อมโยงทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองด้านตะวันออกสายบางปะอิน- บางพลี ตลอดจนเชื่อมโยงกับโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองด้านเหนือและด้านตะวันตกในอนาคตได้อย่างเป็นระบบ โดยด้านเหนือ ได้แก่ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 5 (ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต – บางปะอิน) ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 (M6) (บางปะอิน – นครราชสีมา) ด้านตะวันตก ได้แก่ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 (M81) (บางใหญ่ – กาญจนบุรี) ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 (M9) (ช่วงบางขุนเทียน – บางบัวทอง) เส้นทางทั้งหมดนี้ล้วนจะยกระดับประสิทธิภาพการขนส่งกรุงเทพมหานครกับด้านทิศตะวันตกและทิศเหนือได้อย่างคล่องตัว

ทั้งนี้มอเตอร์เวย์ M9 (บางบัวทอง-บางปะอิน) แบ่งแผนงานออกเป็น 2 เฟส ให้สอดคล้องกับการเบี่ยงจราจรสำหรับงานโยธา โดยเฟสแรก(บางบัวทอง- ลาดหลุมแก้ว) เริ่มก่อสร้างปี 2568 ส่วนเฟส 2 (ลาดหลุมแก้ว-บางปะอิน) เริ่มปี 2569 โดยทล. จะเสนอครม. ขออนุมัติรวมทั้งสองเฟส แต่จะเสนอของบประมาณปี 2568 ไปดำเนินการเฉพาะเฟสแรกก่อนเท่านั้น

สำหรับสถานะปัจจุบัน อยู่ระหว่างนำเสนอ ครม. อนุมัติดำเนินโครงการ โดยใช้แหล่งเงินงบประมาณ 7,888.02 ล้านบาท และเงินกู้ 7,371.98 ล้านบาท คาดว่าเริ่มเปิดให้บริการได้ในปี 2573 โดยรูปแบบมอเตอร์เวย์จะเป็นเส้นทางระดับดิน ปัจจุบันทล.ได้ดำเนินการปรับปรุงถนนคู่ขนานหมายเลข 3901 และ 3902 เพื่อให้เป็นทางเลือกในการเดินทางของผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงนี้

อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวต่อว่า ตามที่กระทรวงคมนาคมได้เสนอรายการโครงการขนาดใหญ่ที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ที่มีความพร้อมดำเนินการ เพื่อขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตามขั้นตอนแนวทางที่กำหนดไว้ และคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติอนุมัติในหลักการเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2566 จำนวน 53 โครงการ วงเงินรวม 146,803.44 ล้านบาท สำหรับรายการที่ดำเนินการโดยทล. มีจำนวน 46 โครงการที่จะดำเนินการในปี 2567-2569 วงเงินรวม 91,643.4450 ล้านบาท คิดเป็นวงเงินที่จะขอตั้งงบปี 2567 จำนวน 18,328.6890 ล้านบาท

โดยโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 9 (M9) สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ช่วงบางบัวทอง – ลาดหลุมแก้ว มีระยะทาง 35 กิโลเมตรซึ่งโครงการนี้มีความพร้อมเรื่องแบบรูปรายการ ประมาณการค่าก่อสร้าง และเป็นการก่อสร้างปรับปรุงในเขตทางหลวงเดิมทั้งหมด ไม่มีการเวนคืน เป็นโครงการสำคัญเพื่อขับเคลื่อนการบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติประจำปี พ.ศ. 2567 ซึ่ง ครม.ได้รับทราบมติเห็นชอบของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เสนอเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 แล้ว

โครงการดังกล่าวนี้จัดเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาโครงข่ายถนนวงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ช่วงบางบัวทอง – บางปะอิน (M9) ให้เป็นทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองเต็มรูปแบบที่มีการควบคุมการเข้าออกตลอดสาย (Fully controlled access)

โดยแนวเส้นทางที่ศึกษาไว้จะเชื่อมโยงการเดินทางจากด้านตะวันตกของกรุงเทพมหานคร ไปสู่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จุดเริ่มต้นโครงการเชื่อมต่อจากจุดปลายของโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ทางยกระดับบางขุนเทียน – บางบัวทอง (M9) และสิ้นสุดโครงการที่บริเวณทางแยกต่างระดับบางปะอิน ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยังมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ด้านตะวันออก (บางปะอิน – บางพลี) และมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 (บางปะอิน – สระบุรี – นครราชสีมา) มีวงเงินงบประมาณโครงการโดยขอใช้เงินกู้ 2,077.2947 ล้านบาท และใช้เงินงบประมาณสมทบ 2,222.7053 ล้านบาท

“การเสนอโครงการดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอน และแนวทางที่กำหนดไว้ในการขอตั้งงบประมาณปี 2567 ที่มีความพร้อมเพื่อให้ ครม. พิจารณาอนุมัติในหลักการ ก่อนที่ ทล. จะเสนอคำขอตั้งงบประมาณเช่นทุกปีที่ผ่านมา โดยจากมติ ครม. เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2566 ที่ผ่านมา ทล.ได้รับข้อสังเกตและความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงบประมาณ และจะได้ประสานสำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง เพื่อขอบรรจุโครงการนี้ไว้ในแผนบริหารหนี้สาธารณะ ซึ่ง ทล.ได้มีการประสาน สบน.อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยจะดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับในขั้นตอนตามแผนงานในโครงการนี้ ทล.อยู่ระหว่างนำเสนอ ครม. และเมื่อได้รับอนุมัติจาก ครม. แล้ว ทล.จะเสนอ สบน.เพื่อบรรจุโครงการไว้ในแผนบริหารหนี้สาธารณะและเร่งรัดดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้ต่อไป” อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวในตอนท้าย